เมโสโปเตเมียโบราณ ได้รับอิทธิพลหลากหลายของวัฒนธรรมสุเมเรียน อัสซีเรีย และบาบิโลเนียน วัฒนธรรมเหล่านี้มีความคล้ายคลึงกันมาก จนถูกจัดกลุ่มให้อยู่ภายใต้วัฒนธรรมเมโสโปเตเมีย ศิลปะของเมโสโปเตเมียมีส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของประติมากรรม และสถาปัตยกรรม แม้ว่าชาวเมโสโปเตเมียก็วาดภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่น่าเสียดายที่มันหลงเหลือมาเพียงน้อยนิด
ซึ่งแตกต่างจากอารยธรรมของอียิปต์หรือกรีซ เมโสโปเตเมียเป็นเชื่อในเรื่องนับถือเทพเจ้า เหมือนกับอารยธรรมอื่นๆ และทัศนคติต่อผู้หญิง จากความรู้ที่ได้ศึกษาจากบันทึก ทำให้รู้ว่าสิทธิของผู้หญิงความสำคัญไม่แพ้ชาย ในสมัยก่อนชายหญิงล้วนต้องทำงานเช่นเดียวกัน เพราะเมโสโปเตเมียโบราณเป็นรากฐานของสังคมเกษตรกรรม อาชีพหลักคือการปลูกพืช และเลี้ยงปศุสัตว์ ด้วยเหตุนี้เองทำให้ผู้หญิงสามารถที่จะมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง หรือเปิดธรุกิจของตน พวกเธอมีอิสระที่จะเลือกคู่ครอง รวมถึงการแสดงออกได้อย่างเปิดเผย
ประติมากรรมเมโสโปเตเมีย

รูปปั้นในยุคเมโสโปเตเมียมีความงดงามมองเห็นอย่างชัดเจน ในฐานะที่เป็นศิลปะทัศนศิลป์แบบดั้งเดิม มีพื้นผิวที่เรียบง่าย ตกแต่งด้วยลายเส้น หรือจุดจำนวนมาก รูปปั้นจำนวนมากถูกสร้างขึ้นโดยช่างแกะสลักเมโสโปเตเมีย ผลงานที่น่าประทับใจที่สุดคือผู้พิทักษ์พอร์ทัล (‘พอร์ทัล’ เป็นคำศัพท์ทางสถาปัตยกรรมแปลว่า ‘ประตู’) ในขณะที่พิทักษ์พอร์ทัลถูกมองเป็นแบบสามมิติที่ด้านหน้า แต่ด้านข้างของพวกเขาถูกแกะสลักให้มันเหมือนคล้ายกับภาพนูน ส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ หรือสัตว์ที่มีหัวมนุษย์ (ลูกผสมระหว่างมนุษย์กับสัตว์เป็นคุณสมบัติทั่วไปของศิลปะดั้งเดิมทั่วโลก)
สถาปัตยกรรมเมโสโปเตเมีย
สิ่งก่อสร้างของเมโสโปเตเมียมักจะถูกทำขึ้นจาก “หิน” และ “อิฐ” (ทำจากดินเหนียวหรือโคลน) เป็นวัสดุก่อสร้างหลัก ด้วยเหตุนี้เองที่หลงเหลือซากของอารยธรรมเพียงน้อยนิด เมื่อเทียบสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ของอียิปต์ หรือกรีก ซึ่งถูกสร้างขึ้นจากหินทำให้มีความทนทานมากอย่างมาก สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นมากสุดคือ ziggurat ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีรูปร่างคล้ายพีระมิด มักจะให้ความสำคัญกับพื้นที่ภายในเล็กน้อยหรือไม่มีเลย แทนที่จะทำหน้าที่ตั้งของมหาวิหาร ด้านนอกของ ziggurat มักจะถูกตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง หรือกระเบื้องโมเสค
เครื่องประดับเพชรพลอยโบราณ
การออกแบบเครื่องประดับที่ใช้ในเมโสโปเตเมียคือ ลวดลายทางธรรมชาติ เช่น ใบไม้ โคน เกลียว หรือพวงองุ่น เครื่องประดับชาว “สุเมเรียน” และ “อัคคาเดีย” ส่วนใหญ่สร้างขึ้นจากทองคำ หรือหินสังเคราะห์ เช่น โมรา คาร์เนเลียน หรือ แลพิสแลซูลี มีการพบเอกสารจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการค้า รวมถึงการผลิตอัญมณีที่มาจากซูเมเรียน หลังจากนั้นอารยธรรมแห่งนี้ก็ได้พัฒนาทักษะในงานโลหะ จนสามารถทำเครื่องประดับสวยงามได้ด้วยตนเอง ตั้งแต่สร้อยคอ กำไล จี้ เครื่องประดับเหล่านี้ ถูกสวมใส่โดยทั้งชายหญิง แม้แต่เด็กเองก็มักจะสวมใส่กันเป็นเรื่องปกติ